หนังสือ สาม ก๊ก ฉบับ สมบูรณ์ Pdf
ย้ายตำแหน่งเราเตอร์ ตำแหน่งของเราเตอร์มีความสำคัญมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ยัดลงในตู้และวางไว้ตรงกลางในสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สูงสุดรอบ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีวัตถุอิเล็กทรอนิกส์หรือแม่เหล็กอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ เราเตอร์เนื่องจากเพิ่มการลดทอนซึ่งเป็นการสูญเสียสัญญาณ 2. อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์ คุณสามารถลองอัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์ได้ การอัปเดตเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องติดตั้งเนื่องจากมั่นใจว่าเทคโนโลยีล่าสุดและไดรเวอร์ได้รับการสนับสนุนและอุปกรณ์จะทำงานได้ดีที่สุด 3. ลดวัตถุรบกวน ความแรงของสัญญาณที่ดีที่สุดสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเราเตอร์และอุปกรณ์อยู่ในแนวสายตาของกันและกันซึ่งหมายความว่าไม่มีวัตถุใดที่อยู่ตรงกลางรบกวนสัญญาณ ยิ่งมีวัตถุมากเท่าใดการลดทอนและการสูญเสียสัญญาณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีวัตถุจำนวนน้อยที่สุดเพื่อปรับปรุงความแรงของสัญญาณ Wi-Fi 4. สลับช่องสัญญาณ Wi-Fi อาจเป็นไปได้ว่าช่องสัญญาณภายในย่านความถี่ Wi-Fi กำลังมีสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์อื่นที่ใช้ช่องสัญญาณเดียวกัน คุณควรลองเปลี่ยนช่องสัญญาณของอุปกรณ์ของคุณและตรวจสอบว่าความแรงของสัญญาณดีขึ้นหรือไม่ 5.
ที่เป็นลิงค์ที่ 2 ล่าง "Feedback" ในหน้านั้น 3 คลิกไฟล์ติดตั้งแล้วทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ. ตามค่าตั้งต้น ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจะไปอยู่ในโฟลเดอร์ Downloads ให้คลิกไฟล์ที่เขียนว่า "" เพื่อเปิดไฟล์ติดตั้ง Wireless Network Watcher แล้วติดตั้งไปตามขั้นตอนที่ปรากฏ พอติดตั้งเสร็จ Wireless Network Watcher จะเปิดขึ้นมา เปิด Wireless Network Watcher. ที่เป็นไอคอนลูกตาบนเราเตอร์ Wi-Fi หาได้โดยคลิกเมนู Windows Start แล้วพิมพ์ Wiress Network Watcher คลิกไอคอนเพื่อเปิด แล้ว Wireless Network Watcher จะสแกนสัญญาณแล้วแสดงรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ขึ้นมาอัตโนมัติ ในคอลัมน์ "Device Name" จะเห็นชื่อของแต่ละอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi และเราเตอร์นั้นอยู่ 5 คลิกไอคอน 'Play' สามเหลี่ยม. มุมซ้ายบนของ Wireless Network Watcher เพื่อสแกนสัญญาณอีกรอบ แล้วแสดงรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ คำเตือน IP address กับ MAC address นั้นปลอมได้ง่ายมาก บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เป็นแค่ข้อมูลพื้นฐาน แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมถ้าอยากลงลึกกว่านี้ เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 8, 120 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
4GHz และ 5GHz เราจะพบทั้ง 2 Band และสามารถเลือกตั้งค่ารับสัญญาณ เฉพาะ Band ใด Band หนึ่งได้ โดยทำการกดเลือกที่ Preferred Band ก่อน เป็นไงบ้างครับกับวิธีการตรวจสอบ Wireless ในเครื่องคอมพิวเตอร์ว่ารองรับความถี่แบบไหนบ้าง และมีวิธีอย่างไร ยังไงก็อย่าลืมลองกดเช็คกันดูนะครับ จะได้เลือกความถี่ในการใช้งานได้ ในกรณีที่สามารถเลือกได้นั่นเอง หรือถ้าใครมีวิธีไหนที่ลึกซึ้งและน่าสนใจเกี่ยวกับการตรวจสอบคลื่นความถี่ ก็มาแชร์ความรู้กันได้เน้อออ ^^
เวลาเราใช้งาน Wireless กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะมีคลื่นความถี่ของการใช้งานที่สามารถรองรับได้ทั้งคลื่นความถี่ 2. 4GHz หรือ 5GHz แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นรับคลื่นความถี่เท่าไร เพื่อที่เราจะได้ใช้งานความเร็วที่เต็มประสิทธิภาพนั่นเองครับ เพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Router หรือตัวกระจายสัญญาณสมัยนี้ ได้ทำออกมาให้รองรับการใช้งานโดยคอมพิวเตอร์หรืออุกรณ์พกพาได้หลายเครื่องมากขึ้น โดยยังให้ประสิทธิภาพและความเร็วที่ดีเหมือนเดิม วิธีการตรวจสอบ 1. เลือกสัญญาณ Wireless หรือ Wi-Fi ที่เราทำการเชื่อมต่ออยู่ จากสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อด้านขวาล่างของจอนะครับ จากนั้นเลือก Open Network and Sharing Center 2. คลิกเลือก Change adapter settings 3. เลือก Wireless ที่เราใช้งานอยู่ จะปรากฏรูปสัญญาณสีเขียว และไม่เป็นกากบาทนั่นเอง จากนั้นคลิกขวาแล้วเลือก Properties 4. คลิกปุ่ม Configure… ที่ถัดมาจากช่องของ Connecting using: 5. คลิกเลือก Advanced ถ้าเป็น Computer หรือ Notebook ที่ใช้คลื่นความถี่ 2. 4GHz ได้ชนิดเดียวจะขึ้นดังภาพครับ ซึ่งจะไม่สามารถเลือกตั้งค่า Channel Width for Band ได้ 6. แล้วสำหรับ Computer ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง 2.
แชร์หน้าเว็บนี้: 1 inSSIDer (โปรแกรม inSSIDer เช็คสถานะสัญญาณ Wi-Fi รอบตัว) ดาวน์โหลดโปรแกรม inSSIDer ค้นหาเครือข่าย Wi-Fi เช็คสถานะสัญญาณ ความถี่ ข้อมูล ความแรงสัญญาณ อัตราการใช้งาน อินเทอร์เน็ตไร้สายรอบตัว พร้อมฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย ใช้งานง่าย ดาวน์โหลด: 3, 598 สัปดาห์ก่อน: 63 18, 120 2 Wireless Network Watcher (ตรวจสอบ Wireless รอบๆ ตัวคุณ) 2. 30 ดาวน์โหลดโปรแกรม Wireless Network Watcher ตรวจสอบ Wireless เครือข่ายไร้สาย ของคุณ ว่ามีอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ใดมาเชื่อมต่ออยู่บ้าง พร้อมบอกรายละเอียด ดาวน์โหลด: 128, 064 สัปดาห์ก่อน: 59 344, 364 3 TekWiFi (โปรแกรมต่อ WiFi ดูปัญหา การเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้) 1. 5. 2 ดาวน์โหลดโปรแกรม TekWiFi ดูสัญญาณไวไฟ เชื่อมต่อไวไฟได้อย่างง่ายดาย ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก พร้อมตัวช่วย หาสาเหตการต่อ WiFi ไม่ได้ ต่อ WiFi ไม่ติด วิเคราะห์อย่างละเอียด ดาวน์โหลด: 10, 251 สัปดาห์ก่อน: 28 40, 030 4 WifiInfoView (โปรแกรมดู WiFi ตรวจสอบ สัญญาณ WiFi) 2. 75 ดาวน์โหลดโปรแกรม WifiInfoView ดูสัญญาณ WiFi ในบริเวณใกล้เคียง แสดงข้อมูลของ WiFi นั้นๆ เช่น ชื่อเน็ตเวิร์ค SSID เลขแมคแอดเดรส ความเร็วสูงสุด ประเภทของสัญญาณ ฯลฯ เพียบ ดาวน์โหลด: 15, 135 สัปดาห์ก่อน: 17 85, 228 5 Homedale WLAN Monitor (โปรแกรมดูสัญญาณ Wifi รอบข้าง) 2.
การตั้ง Channel ของ Wifi ** เช็คช่องสัญญาณ wifi - YouTube
วิธีบล็อคคนแอบใช้ WIFI ตัดสัญญาณเน็ต l New Junior - YouTube
02 ดาวน์โหลดโปรแกรม WLAN Monitor หาความเข้มของสัญญาณ Wireless ว่าเป็นอย่างไรทั้ง รายละเอียดอุปกรณ์ Vendor ความเข้มของสัญญาณ การเข้ารหัส WEP WPA WPA2 เวลาตรวจพบ ดาวน์โหลด: 46, 404 สัปดาห์ก่อน: 13 187, 316 7 WirelessMon (โปรแกรม WirelessMon ตรวจเช็คสัญญาณ Wi-Fi) 5 ดาวน์โหลดโปรแกรม WirelessMon ใช้ติดตามควบคุมสถานะของ Wireless WiFi Adapter และเก็บข้อมูลการเชื่อมต่อของสัญญาณไวไฟได้อย่างละเอียด สามารถแสดงผลเป็นแบบกราฟฟิกได้ ดาวน์โหลด: 4, 751 สัปดาห์ก่อน: 3 23, 818 8 WirelessNetView (โปรแกรมดูสัญญาณไวเลส รอบข้าง ฟรี) 1.
ถ้าสงสัยว่ามีใครแอบใช้ Wi-Fi ของคุณอยู่ ก็เช็คได้ว่ามีอุปกรณ์ไหนเชื่อมต่อ Wi-Fi สัญญาณนั้นอยู่บ้าง วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะมีหลายวิธีให้ได้เลือกใช้กัน! บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเช็คให้คุณเอง ว่ามีใครกำลังเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ของคุณ 1 เปิดเบราว์เซอร์. คุณใช้เบราว์เซอร์ล็อกอินเข้าหน้าปรับแต่งเราเตอร์ที่เป็นเหมือนหน้าเว็บได้ หน้านี้ใช้ตั้งค่าและปรับแต่งสัญญาณ Wi-Fi รวมถึงเช็คได้ว่ามีใครเชื่อมต่อเราเตอร์ Wi-Fi นั้นอยู่บ้าง 2 พิมพ์ IP address ของเราเตอร์ในแถบ address. เพื่อไปยังหน้าปรับแต่งเราเตอร์ Wi-Fi ปกติ IP address ของเราเตอร์ Wi-Fi จะต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่น แนะนำให้อ่านคู่มือหรือเข้าเว็บผู้ผลิต เพื่อเช็ค IP address ของเราเตอร์ Wi-Fi ที่ใช้ IP address พื้นฐานของเราเตอร์ Wi-Fi ก็คือ 192. 168. 1. 1 และ 10. 0. 1 คุณเช็ค IP address ของเราเตอร์ได้โดยใช้ Command Prompt ของ Windows ให้เปิดเมนู Start แล้วพิมพ์ CMD จะเห็น Command Prompt ก็คลิกเพื่อเปิดได้เลย จากนั้นพิมพ์ ipconfig /all แล้วกด ↵ Enter สุดท้ายมองหา IP address ทางขวาของ "Default Gateway" 3 พิมพ์ username และรหัสผ่าน. ถ้าไม่เคยเปลี่ยน username และรหัสผ่าน ให้กรอกข้อมูลตั้งต้นได้เลย ซึ่งจะต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของเราเตอร์ แนะนำให้อ่านคู่มือหรือเข้าเว็บผู้ผลิต เพื่อเช็ค username และรหัสผ่านตั้งต้นของเราเตอร์ username และรหัสผ่านตั้งต้นส่วนใหญ่จะเป็น "admin" และ "password" 4 สำรวจรายชื่ออุปกรณ์.
tgeholding.com, 2024